ประวัติของวัดล่องขุ่น

ประวัดของวัดนั้นเกิดขึ้นได้จาก อาจาร์ย ท่านหนึ่ง ที่มีชื่อว่า อ. เฉลิมชัย โฆษิพิพัฒน์ เขาเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงราย เขามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างงานที่เรียกว่า พุทธศิลป์ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแล้วได้ประกาศความที่ยิ่งใหญ่ต่อคนทั่วโลกเพื่อเขาที่จะได้ถวายต่อองค์พระบาทสมเด็จประเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 9 ซึ่งวัดล่องขุ่นนั้น เป็นวัดที่มีความสวยและโดดเด่นต่างจากวัดอื่นๆ  ด้วยเขามีฝีมือในการออกแบบ และก่อสร้าง ของ อาจาร์ยท่านนี้ เพื่อได้สร้างวัดประจำบานที่ตนเองเกิด สร้างโดยจินตนาการ จัดเป็นงานที่งานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงามน่าแวะชมมาก เขามีแรงบรรดาใจที่จะสร้างวัดนี้ขึ้นมา3ประการคือ 1 เพื่อ ชาติ ศาสนา และ พระมาหากษัตรย์  เขามีความปารถนาที่จะถวาย ชีวิต ใช้ช่วงเวลาที่มีให้ดีที่สุดสร้างเพื่อเพื่อเป็นงานประจำของรัชกาล ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ได้ แล้วจะถวายชีวิตของตนเองตายคาวัด จากเอกสารของวัดล่องขุ่น  ในส่วนของความงดงามของวัดนี้ อยู่ที่ โบสถ์ เพราะ อาจารย์เขานั้นอยากจะเนรมิตรวัดให้เป็นเหมือนบนสวรรค์วิมานบนดิน ที่มนุษย์นั้นสามารถที่จะสัมผัสได้ โบสถ์ นั้น เปรียบเสมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาว แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า กระจกขาว หมายถึง พระปัญญาธิดา ของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์ และจักรวาล และในบริเวณวัดนั้นมีจุดที่น่าสนใจอีกหนึ่งที่ คือ ห้องน้ำของวัดที่มีความงดงามด้วยการออกแบบสถาปัตยกรรมแนวเดียวกันจนหลายคนนั้นเผอลยกมือไหว้ก่อนเข้าห้องน้ำ นอกจากนี้ยังมีหอศิลป์ และห้องที่แสดงภาพ สามารถเข้าชมภาพศิลปะของ อาจารย์ เฉลิมชัย และมีการจำหน่ายของที่ละลึกต่างๆ และประติมากรรมที่มีความงดงาม ที่กระจำหน่ายอยู่ บริเวณรอบวัด

ความคิดของอาจารย์นั้น ที่สร้างเพื่อ ชาติ ศาสยา และ พระมหากษัตริย์ มีความหมายดังนี้

ชาติ – ด้วยที่มีความรักบ้านเมืองของที่ตนเองเกิด เป็นคนที่รักงานศิลป์ จึงมีความหวังที่จะสร้างงานศิลปะที่มีความยิ่งใหญ่และให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน

ศาสนา – ธรรมะนั้นได้เปลี่ยนชีวิตของอาจารย์ จากจิตที่ร้อนกลายเป็นเย็นเขาจึงขออุทิศตนให้แก่พระพุทธศานา

พระมาหากษัตรย์ – จากการเข้าเฝ้า ที่ตนเองถวายงานพระองค์ท่านหลายครั้งแล้ว ให้ให้ตัวอาจารย์เขานั้น รักพระองค์มาก จากการทีได้เห็นพระอัจฉริยะภาพทางศิลปะในตัวของพระองค์ท่าน และ สำนึกในพระมหากรูณาธิคุณ จึงปรารถนาที่จะสร้างงานพุทธศิลป์ถวายงานศิลปะประจำรัชกาลที่ 9 คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

ความหมายของ โบสถ์

สีขาว – พระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า

สะพาน – การเดินข้ามจากวัฎสงสารสู่พระพุทธเจ้า

เขี้ยว หรือปากพญามาร – กิเลสในใจ

สันของสะพาน – เขาพระ สุเมรุดอกบัวทิพย์ มี 4 ดอกใหญ่ตรงทางขึ้นด้านข้าง อุโบสถแทนพระอริยเจ้า 4 องค์ คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามิ พระอนาคามี และพระอรหันต์

บรรไดทางขึ้น – มี 3 ขั้นแทน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา

วิธีการเดินทางมา

-เดินทางด้วยเครื่องบิน จาก สนามบินเชียงราย

ให้มาทางทิศใต้ อ.พาน จ.เชียงราย ทาง จะไป จ.พะเยา และมาเรื่อยๆ ออกจากตัวเมืองเชียงรายจะต้องผ่านแยกไฟแดงสถานีขนส่งที่ 2 ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงไฟแดงให้เลี้ยวขวา แยกขุนกรณ์ และให้เลี้ยวขวามา จากตัวเมืองมาถึงวัดร่องขุ่นเพียงใช้เวลาไม่กี่นาที

-รถส่วนตัว

ผ่าน จ.พะเยา เข้า อ.พาน จ.เชียงราย ขับมุ่งหน้าไปเรื่อย พอออกจาก อ.พานนั้น ต้องข้ามสะพานแม่ลาวขับรถไปซักพักจะถึงแยกปากทางแม่สรวย   ขับรถต่อไปอีกซักประมาณ10 ก.ม ก่อนจะถึงแยกขุนกรณ์  ประมาณ200 เมตร ถ้ามองดูทางด้านซ้ายมือ จะเห็นตัววัดสีขาวสะดุดตายิ่งนัก เมื่อถึงทางแยกให้เลี้ยวซ้ายไปทางน้ำตกขุนกรณ์ วัดร่องขุ่นจะอยู่เข้าไปประมาณ100 เมตร ซึ่งวัดร่องขุ่นจะอยู่ก่อนถึงตัวเมืองเชียงราย13 ก.ม ตรงหลัก ก.ม ที่816 ถนนพลหลโยธิน