มหาวิหารพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์ เป็ยวิหารแบบโรมันคาทอลิก สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1134 – 1157 ซึ่งเป็นโบสถ์และยังได้รับการรับรอง ในปี 2466 อีกด้วยนะคะเพื่อนๆ เดี๋ยววันนี้แอดจะพาเพื่อนๆมาเที่ยววิหารแห่งนี้กันค่ะ

มหาวิหารพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์  (Basilica of the Holy Blood)

มหาวิหารพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

สถานที่แห่งนี้เคยเป็นสถานที่พักของท่านเคานต์แห่งแฟนเดอร์ส ในปี 1134 ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นศาลที่ตั้งอยู่กลางเมืองบรูจส์ ซึ่งยังมีของที่มีค่าและนับว่าเป็นของที่ระลึกชิ้นนึงที่มีความสำคัญนั่นก็คือ เลือดนั่นเองค่ะ ซึ่งหลังจากนั้นก็เปลี่ยนชื่อมาเป็น Chapel of the Holy Blood นั่นเองค่ะ

โบสถ์แห่งนี้มีอีกหนึ่งชื่อเรียกอรกชื่อว่าโบสถ์แห่งเลือดศักด์สิทธิ์ซึ่งเค้าจะตกแต่งออกมาเป็นสไตล์โรมาเนสก์ซึ่งได้รับการปรับปรุงอีกครั้งในปี 2366 ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมอีกด้วยนะคะ

นอกจากนี้สิ่งที่มีชื่อเสียงและดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่ก็คือ บรรไดของเค้านั่นเองค่ะ ซึ่งมีชื่อเรียกบรรได้ว่า De Steegheere อีกด้วยนะคะ ซึ่งสร้างขึ้นมาในช่วงปี 1529 – 1533 เป็นการสร้างขึ้นมาในสไตล์ดอธิคและออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังอย่าง วิลเลี่ยมแอร์ท และด้านนอกของโบสถ์ยังมีรูปปั้นแกะสลักอีกด้วยนะคะ

ผลจากการปฎิวัติของประเทศฝรั่งเศสทำให้บรรไดได้รับความเสียหายในช่วงปี 1832 ซึ่งยังคงหลงเหลือซากปรักหักพังและเหลือมาจนปัจจุบันได้มีการพัฒนาและนำมาทำให้ดีขึ้นเหมือนในปัจจุบันนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ในการรณรงค์ให้อนุรักษ์สถานที่แห่งนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 เลยล่ะค่ะ

มหาวิหารพระโลหิตอันศักดิ์สิทธิ์

สถาปนิกชื่อดังที่ช่วยออกแบบและพัฒนาโบสถ์มีทั้งหมด 5 คนค่ะ ฌอง-แบปติสต์ เบทูน หลุยส์ เดลาเซนเซอรี่ William Curtis Brangwyn และ Charles De Wulf นั่นเองค่ะ พวกเค้าล้วนแต่เป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงในยุคของเค้าเองเลยนะคะ ทำให้โบสถ์ออกมาสวยงามและมีเอกลักษณ์ตามที่เราได้เห็นในรูปที่แอดเอามาฝากนั่นเองค่ะเพื่อนๆ

เรามาพูดถึงเลือดที่แอดได้พูดไปข้างบนกันบ้างดีกว่าค่ะว่าทำไมถึงขึ้นชื่อว่าเป็นเลือดหรือว่าโลหิตที่มีความศักด์สิทธิ์นั่นเองค่ะ ซึ่งเลือดนี้เป็นเลือดของพระเยซูคริสต์เจ้านั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในพระวรสารแต่ก็ยังไม่มีหลักฐานนะคะว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักบุณโจดซฟหรือไม่ ซึ่งตำนานนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ในช่วงศตวรรษที่ 30 ที่ผ่านมานั่นเองค่ะ นอกจากนี้ยังมีอัญมณีและเป็นสิ่งที่มีความล้ำค่าในโบสถ์อีกด้วยนะคะ ซึ่งมีมากกว่า 100 ชิ้นเลยนะคะ ซึ่งมันจะประกอบไปด้วยอัญมนีทั้ง 6 เหลี่ยมและประดับเป็นรูปปั้นสีทองอยู่ในวิหารนั่นเองค่ะเพื่อนๆ

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =

สถานที่ท่องเที่ยว คลิก  Basilique du Sacré-Cœur de Montmartre

โดย แทงบอลออนไลน์

= = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = = =